การทำเกษตรในแนวทางพึ่งตนเอง
ของ ยงกฤต หยาง
 

หยุดไปหลาย วัน เพื่อเตรียมตัวปรับปรุงซ่อมแซม ที่ เรียนรู้ การพึ่งตนเอง ของผมที่ โรงสีร้างหันคา ชัยนาท ใช้เวลาผ่านไป 2 เดือน เดินทาง พร้อมคนงาน 6 ครั้ง ค่าใช้จ่ายครั้งละ ประมาณ 2,000 บาท รวมเงิน ประมาณ 12,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็น จำนวนเงินที่ คาดไม่ถึงว่าจะต้องเสีย ผมจึงมักพูดตลอดเวลา ว่า... การคิด การเขียน การพูด สู้การกระทำไม่ได้ ถ้าได้ลงมือทำด้วยตนเอง จะรู้ปัญหาที่คาดไม่ถึง ...เช่นผมเป็นต้น กว่าจะลงมือ ซ่อมห้องน้ำ ผมต้องเสียเวลา เสียเงินในเรื่องที่ไม่ควรเสีย มากมาย เงินหมื่น สำหรับผมถือว่า มาก ครับ ตามรูปที่ 1 ถนน ทางเดิน ในบริเวณบ้าน ถูกตัดขาด โดยคน วันนี้ก็ซ่อมเสร็จแล้ว คนงานที่ซ่อมถนนบอกผมว่า ทำไมถึงถูกตัดขาด ผมก็รับทราบเมื่อซ่อมเสร็จ ผมก็ดีใจ ต่อไปนี้ รถทุกชนิด สามารถ เข้าไปเยี่ยมผมได้

 ....ผมบอก วิศวกร ซึ่ง มีอาชีพ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้จัดการเตรียมพื้นที่ สำหรับซ่อมห้องน้ำ ห้องขี้ ห้องเยี่ยว ผลจากการที่รอมา 2 เดือน วันนี้ ขยะเต็มไปหมด โรงสี ส่วนที่เคยเป็นยุ้งฉาง ที่วาง ข้าวสาร ข้าวเปลือกถูกรื้อ และถอนเสา ออกหมด ผมแปลกใจมากๆ ว่า ผมพูดภาษาไทยกับคนที่จบปริญญา เป็นทั้งวิศวกร และผู้รับเหมา ว่าให้เตรียมพื้นที่ให้ผมปรับปรุงห้องน้ำ แต่ทำๆมเป็นแบบนี้ ...ที่ผมเล่า ประสพการณ์ เหล่านี้ เพื่อเป็นข้อเตือนใจว่า เวลาตกลงกับช่างผู้รับเหมา ต้องมีสัญญา และรายละเอียดเป็นหนังสือ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด อย่าคิดว่า พวกจบวิศวะ แล้วจะเชื่อถือได้ทุกคน .....


ผมบอกท่าน มานิจ และทุกคนให้รับรู้ว่า นี่คือ สาเหตุที่ผมต้องมา ฟื้นฟู ปรับปรุง ซ่อมแซม เพราะคนที่อยู่ อยู่แบบทำลาย ตามรูปที่เห็น ครับ ผมจึงเตรียมเปิดเป็น สถานที่เรียนรู้ 3 เรื่อง คือ 1 พลังงาน 2 เกษตร 3 สภาพจิตใจ โดยให้ทุกคนที่มาเรียนรู้ ดูจากของจริงที่เกิดขึ้นในทุกเรื่องราว ดูแล้ว ทุกคนก็จะเข้าใจได้ด้วยตนเอง ทั้ง 3 เรื่องที่กล่าวมาครับ

จบ เล่าเรื่อง การทำสวน พึ่งตนเองครั้งที่ 1

ชายแก่ อายุ 71 ที่โดดเดี่ยว ตัวคนเดียว ไม่ใช่คนตามรูปที่เห็นพร้อมเพื่อนที่ขาเจ็บ เดินทางต้องใช้เครื่องช่วย ตามรูปที่เห็นได้มาเริ่มต้น ที่โรงสีร้าง (ที่เกิดจากน้ำมือคนเฝ้า = เป็นข้อคิดข้อเตือนใจ ) แห่งนี้ และจะเป็นสถานที่เริ่มต้น และเรียนรู้ เรื่องราว โบราณ เก่าๆ ที่ผมเคยพบเคยเห็นมาครับ หลายครั้งที่ผ่านมา ผมได้กล่าวถึง การเกิดไฟฟ้า มาแล้วว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร สรุปสั้นๆ ก็คือ เมื่อมีการหมุนทำให้ เส้นแรง แม่เหล็ก ไปตัดขดลวด จึงทำให้เกิดไฟฟ้าขึ้นมา .***..สมาชิกหาอ่านได้ใน เวป ครับ ..***....ส่วนพลังงานอะไรที่มาทำให้หมุน ผม กล่าวไว้ว่า 1 พลังงานกล 2 พลังงานน้ำ 3 พลังงานลม .. ในที่นี้ ผมจะขอกล่าว ข้อหลังสุดก่อนคือ ข้อที่ 3 พลังงานลม ครับ เพราะ ผมเป็นคนถอยหลังเข้าคลอง นั่นเอง และสถานทีีผมก็ อยู่ที่ คลองธรรม ผม จึงเป็นคนถอยหลัง เข้าคลองธรรม ครับ...


...จากการทดลองของผมในหลายๆ สถานทีี ประเทศไทยของเรานี้ มีลมอยู่ทั่วไป มีลมมาก และมีลมน้อย แตกต่างกันไป เมื่อที่ใดมีลม เอากังหันไปตั้งใว้ ก็จะหมุน จะหมุนมากหรือหมุนน้อย หมุนแรง หมุนเร็ว หมุนช้า ก็ขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมและการออกแบบ ครับ

เข้าเรื่องเลยครับ กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า มี 2 แบบ ครับ คือ 1 กังหันลม หมุนในแนวนอน Horizontal axis ตามรูปที่ 1 ..2 กังหันลมหมุน ในแนวตั้ง ตามรูปที่ 2 ....รายละเอียดของกังหันแต่ละชนิด ผม แยกกล่าวต่างหาก ครับ...ในที่นี้ ผมจะขอกล่าวการจัดทำ กังหันลม ที่หมุนในแนวตั้งก่อนครับ
..วัที่ใช้ทำกังหัน ตาม...***ตัวอย่างที่ผมยกมานี้ ..***....ซึ่งเป็นของท่าน ฮิวส์ ถ้าใคร รีบร้อน และเข้าใจภาษาอังกฤษ ได้ดี ก็สามารถ หาอ่านใน pdf file ได้เลย ครับ เพราะ ผม post ไว้แล้ว ใน www.pradharm.com ..เป็น การ ใช้ เหล็ก กับไม้ และเป็นแบบกังหันลมที่หมุนใน แนวตั้ง

ขอกล่าวย้อนหลังหน่อยครับ คำว่า เกษตรพึ่งตนเอง ในความหมายของผมคือ ผมทำเกษตร ผมต้องพึ่งไฟฟ้า การพึ่งพาไฟฟ้า ของผมคือการพึ่งตนเอง ทำไฟฟ้าไว้ใช้เองเพื่อการเกษตร ครับ โดยผมจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นศูนย์เรียนรู้ และถ้าชอบ ก็ทำตาม ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็มาเรียน ให้ทำได้ครับ

..***..น้ำจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากที่สุดของการทำเกษตร..***...

ขอความที่กล่าวมานี้ ผม เห็นด้วย จึงขอนำมาบอกต่อ โดยไม่ได้ขออนุญาติ .. ครับ.
ผม จึง ขอยกตัวอย่างตามรูปที่เห็น นี้ เพราะ เปรียบเทียบ มองดูแล้ว เหมือนกับ สถานที่ที่ผมกำลังเตรียมการทำเกษตรที่ อ. หันคา จ. ชัยนาท ครับ เหมืแนกันอย่างไร ก็คือ เหมือนกันตรงที่ไม่มีไฟฟ้า ..แต่ น้ำเป็นสิ่งจำเป็น มากที่สุดสำหรับการทำเกษตร ผม จดจำ ตลอดเวลาครับ ..ผมทำอย่างไร ???...
ผมทำดังนี้ครับ

1 ผมเตรียมการทำการผลิตไฟฟ้าใว้ใช้เพื่อการเกษตร ครับ ในที่นี้ ขอย้ำหลายๆ ครั้งเพื่อการ จดจำ ครับ ผลิตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร เป็นหลัก ส่วน ใว้ใช่ส่วนตัว เป็นเรื่อง ที่ไม่คาดคิดครับ
2 การผลิตไฟฟ้าของผม ผมจะใช้ กังหันลม โดย ไม่สนใจว่ามีลม มากหรือน้อย ลมจะมาเวลากลางวันหรือ กลางคืน มาหรือไม่มาเวลาไหนได้ทั้งนั้น เพราะที่ผ่านมาหลายสถานที่ มีลม เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง
3 ผมใช้ โซล่าเซลล์ เสริมกังหันลม เป็นการเสริมเพื่อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพราะ ทั้ง 2 อย่างนี้ คือ ลมและแสงแดดไม่มีอยู่ตลอดเวลา จึงต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
4 การสะสมพลังงาน ไฟฟ้าเป็นแบบ commplicated intergrated functionalities. (เป็นเรื่องที่ต้อง แยกอธิบายเป็นเรื่องราวอีกต่างหาก ครับ ) ..?.. ไม่มีคำอธิบายต้องมาดูจากของจริงเท่านั้น เพราะ อธิบายแล้วจะมีคำโต้แย้งอีกมากมาย จึงเป็นการ

สมควรต้องมาดู และเห็นการทำงานด้วยตาของตนเองเท่านั้น ก็จะสามารถหาคำอธิบายและเหตุผลประกอบได้ด้วยตนเอง ( ปัด จัต ตัง เว ทิ ตะโพ วิญญู หี ติ ) ซึ่ง นั่นก็คือ เป็นแบบใช้ มอเตอร์ ธรรมดาๆ ทะยอย สูบน้ำ ทุกครั้งที่มีไฟฟ้า.. ถามว่า แล้วจะสูบน้ำเพียงพอแก่ความต้องการ หรือไม่ ..คำตอบหรือ พอ ..พอ เพราะเป็นการสูบน่ำแบบสะสม เพื่อใช้งานเกษตร ครับ ...

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือ พื้นฐานการทำเกษตรของผม ครับ ถามว่าต้องลงทุนมากไหม คำตอบคือ ถ้าทำเองไม่มากครับ แต่ถ้าจ้างทำ ผมไม่รู้เพราะแต่ละคนคิดค่าแรงของตัวเอง ในแต่ละคนไม่เท่ากันครับ ส่วนผมนั้น ตลอดเวลา ขอยืนยันว่า ไม่ได้ ทำขาย หรือ รับจ้างทำ เพราะ มีผู้คนมากมายในเฟสนี้ ที่ ทำได้และรับจ้างทำ ครับ
www.pradharm.com/news.html

*** ..น้ำจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากที่สุดของการเกษตร..***....
ผมเริ่มเตรียมการทำกังหันลม เพื่อ ผลิตไฟฟ้า เพื่อการเกษตร ซึ่งก็คือ การการใช้ปั้มน้ำ ดังนั้นผมจึงให้รู้เรื่อง เกี่ยวกับ กังหัน บ้าง เล็กๆน้อยๆ รายละเอียดหาอ่านได้ใน google สำหรับผมเลือกการทำกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้าใน ขอบเขค ที่ผมทำได้ และทุกคนสามารถ ทำได้ ใน google มีกังหันมากมายหลายชนิด ที่ผมอ่านแล้วเข้าใจ แต่ไม่สามารถทำได้ คล้ายๆ กับ ตะเกียบ ที่ใช้คบอาหารเข้าปาก ผมเข้าใจ ผมทำตะเกียบไว้ใช้เองไม่เคยซื้อ ตะเกียบ ที่มีหลากหลายชนิด แต่ในขณะเดียวกัน ให้ผมทำตะเกียบโลหะ ผมทำไม่ได้ รู้แต่ทำม่ได้ ..กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อการเกษตรก็เช่นเดียวกัน ผมจึงเลือกที่รู้ และ ทำเองได้ เมื่อผมทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้ ในขณะเดียวกัน ผมก็เตรียมทำเกษตรคู่ขนานกันไป พร้อมๆกัน โดยมี เป้าหมาย 1 ไร่ 1 แสนเหมือนเดิม หลังจาก 3 ปี ผ่านไป และ คืนทุนได้ใน ระยะเวลา 2 ปี ครับ

กังหันลมแนวนอน Horizontal axis
กังหันลมแนวตั้ง Vertical axis


## ผมขอเริ่มเลยครับ กังหันลม ที่ใช้มี 2 แบบครับ คือ แนวนอน Horizontal axis และแนวตั้ง Vertical axis.. แนวนอน เป็นอย่างไร แนวนอนให้ดูแนวลม แนวลมจะขนานไปกับ แกนหมุน ของกังหัน ตามรูป ครับ ส่วน แนวตั้ง แกนกังหันจะตั้งฉากกับ แนวลม ครับ ในการเรียนรู้ ผมเตรียมและ ใช้ทั้ง 2 แบบครับ เพราะผมจะใช้ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน นั่นเอง
ในตลาด ใน google กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า จะมีระบบเฟืองทด และระบบ กำเหนิดไฟฟ้าที่ซับซ้อน ผมจึงตัดทิ้ง ไม่ใช้และไม่อ่าน แม้จะมีคนนำมาให้อ่านก็ตาม ..ผมใช่แบบ ขดลวดและแม่เหล็ก ตามที่ได้เตยกล่าวมาก่อนหน้านี้
ขั้นตอนที่จะกล่าวต่อไปคือ การทำใบพัดครับ ด้วยมือเราเองครับ

รูปที่ 1 รูปที่ 1/1 รูปที่ 2

ก่อนจะเข้าเรื่อง การทำใบพัด ผมขอ อธิบาย ข้อสงสัย บางประการ ที่บางท่าน สงสัย ..ผมขอ อธิบาย ถึงข้อความที่ผมเคยเขียนมาดังนี้ครับ ผม ขอนำรูป เดิมๆ ที่ แสดงการเกิดไฟฟ้า มาเปรียบเทียบให้ดู ครับ รูปที่ 1 เป็นของ ฮิวส์ ซึ่งผมกำลังจะบอกว่า มีวิธีการทำอย่างไร ซึ่งผมเห็นว่า เป็นการทำที่คุ้มค่า คือ ถูกและดี ..หลักการ .. เมื่อใบพัด ของกังหันหมุน แกนก็จะหมุน เพลาหมุน ทำให้ แผ่นที่ติดแม่เหล็กหมุน ..เส้นแรงแม่เหล็กจากแผ่นแม่เหล็ก ทั้ง 2 แผ่น ไปตัดขดลวด ทำให้ที่ปลายทั้งสองของขดลวดมี ไฟฟ้า เมื่อผ่านขั้นตอน ก็สามารถนำไปใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ได้
รูปที่ 2 เมื่อใบพัดลมหมุน แกนเพลา จะหมุน ตำแหน่งเพลาจะมีระบบเฟืองทดให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะไปขับเพลา ซึ้งมี ทุนแม่เหล็ก และ ขดลวด ประกอบอยู่ด้วยกัน และมีส่วนประกอบอีกหลายๆอย่าง จึงมองเห็นได้ว่า เป็น การจัดทำมีความยุ่งยาก มากมาย ต่างกับ รูปแรก ที่ไม่มีอะไรซับซ้อน ผมจึงตัดสินใจ เลือก รูปแรก ที่เป็นของท่าน ฮิวส์ ที่ ผม และ คนทั่วๆ ไปสามารถ ทำได้ด้วยตนเอง..ในเรื่องกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้านี้ ทุกท่าน สามารถ ค้นคว้า และหาอ่านได้ ใน google หรือในแหล่งข่าวสารทั่วๆไป **ในเวปของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็มีบ่งบอกไว้ ทุกท่านที่สนใจ สามารถทำตามได้ *** ในที่นี้ เพราะผมเคยเป็น อดีตเด็กวัดรางบัวมาก่อน เป็นคนต้นทุนต่ำ คือ ทุนไม่ค่อยมี ต้องรอคนบริจาค ผมจึงเลือกที่จะทำแบบของท่าน ฮิวส์ และได้นำ เอกสาร ที่บ่งบอกวิธีการทำ เป็น pdf file มาลงในเวป สำหรับคนใจร้อน ต้องการทำไวๆ
*** ในเรื่องการทำเกษตร การผลิตไฟฟ้า การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทั้งสามประการนี้ ในตอนจบ ตอนสุดท้าย จะมีส่วนสัมพันธ์กัน ข้อความ เนื้อหา บางส่วน ที่ผมเขียน ที่ผมคิด บางครั้งอาจจะแตกต่างกับ ใน google หรือ ของผู้รู้ ท่านอื่นๆ ไม่ต้องมาบอกผม เป็นสิทธิโดยชอบที่จะเลือกเชื่อใคร เพียงแต่ของผมมุ่งเน้น ให้ดูจาก การกระทำ และผลของการกระทำของผมเป็นสำคัญ ด้วยความคิดนี้ ผมจึงติดกล้อง วงจรปิด สามารถ ดูสิ่งที่ผมทำได้ ตลอดเวลา 24 ชม บนมือถือของทุกท่าน ครับ ในเรื่องราว และข้อความ เกี่ยวกับกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า ที่ผม เคย รับรู้มา ส่วนมากจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่อง การนำไปใช้งาน รู้หลักๆว่า ผลิตได้ กี่ watts *** แต่ไม่ได้ระบุให้ละเอียด ว่า ที่ได้มา นั้นต้องทำหรือ เตรียมการอย่างไรบ้าง ขอยกสัก 1 ตัวอย่าง เช่น บอกว่า ผลิตได้ 300 watt แต่ๆม่ได้บอกโดยละเอียดว่า ไฟฟ้า กำลัง 300 watt ใช้กับอะไรได้บ้าง ต้องผ่านขั้นตอนอะไร อีกบ้าง ซึ่ง บางครั้งจึงทำให้ผมสับสน เกี่ยวกับการนำไปใช้งาน เพราะในความเป็นจริง เมื่อมีไฟฟ้า *** ออกจาก หัวกังหันลม หรือ แผงโซล่าเซลล์ ( โซล่าเซลล์ ผมจะแยกกล่าวต่างหากเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ) ยังต้องมีขั้นตอน และวิธีการ เพื่อนำไฟฟ้าไปใช้งานให้ได้ ส่วนมากจะไม่พูดถึง.. เมื่อ ผมนำไปบอกต่อ บางครั้งจะทำให้ เกิดความไม่กระจ่าง ในการนำไฟฟ้าที่ได้ไปใช้ งาน ด้วยเหตุนี้...*** ผมจึงต้อง คิดแล้วจึงเขียน และลงมือทำในที่สุด ผลจะเป็นตามที่ปรากฎ ถ้าผลออกมาดีดี ทุกท่านก็ทำตามได่ แต่ถ้าทำไม่ได้ ผมก็แนะนำ ในสิ่งที่ผมทำจนทำได้ด้วยตนเองครับ ส่วนแบบ อื่นๆ ต้องไปถามและเรียนรู้จากผู้เขียน ผู้เผยแพร่เองครับ ***ตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมาของผม ..ผมพูดตลอดเวลาว่า การเผยแพร่ สิ่งที่ผิด สิ่งที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ไม่รู้ว่าทำได้หรือไม่ เหมือนการให้ยาพิษ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอย้ำหลายๆ ครั้งครับ

-รูปที่ 1 /1 ที่เครื่องกำเหนิดไฟฟ้า ประกอบด้วยแผ่นแม่เหล็ก สองแผ่น และแผ่นขดลวด 1 แผ่น อยู่ตรงกลาง ..แผ่นแม่เหล็กหมุน ส่วนแผ่นขดลวด อยู่กับที่ มีอุปกรณ์ ส่วนประกอบพื้นๆ และการทำงานที่ง่ายมาก ..ทำให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน ระหว่างแบบที่ 1 และแบบที่ 2 ส่วนความชอบของแต่ละท่าน ก็สุดแท้แต่ใจของแต่ละท่าน ส่วนตัวของผมเอง ทำตามแบบที่1 และอีกแบบก็เป็นการใช้มอเตอร์เครื่องซักผ้า ที่เสียแล้วนำมาดัดแปลง แต่มอเตอร์เครื่องซักผ้า หาซื้อ ค่อนข้างยาก ครับ ...ผมขอย้ำซ้ำๆว่า ผมไม่ได้ทำขาย หรือ รับจ้างทำ แต่ถ้าท่านใดชอบหรือ อยากมีอยากได้ มาหัด เรียนรู้ มาหัดทำ ผมคิด ผมเขียนในสิ่งที่ทำได้เท่านั้นครับ สิ่งที่เป็นความรู้ จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง บางอย่างทำได้ บางอย่างก็ทำไม่ได้ ไม่ต้องมาบอก หรือ มาถามผมครับ
 


สำหรับ สมาชิกใหม่ หาอ่านย้อนหลังได้ที่ .....การทำเกษตรในแนวทางพึ่งตนเองของ ยงกฤต หยาง http://pradharm.com/kasetyang.html

ขอบอกเล่าประวัติของผมซ้ำๆ อีกครั้งว่า ผมไม่เคยมีอาชีพเกษตร มาก่อน ในอดีตฐานะทางบ้านก็ไม่ใช่คนร่ำรวย ผม เป็นเด็กวัดรางบัว ภาษีเจริญ ผมทไเกษตรยามอายุ 71 ไม่ได้ทำตาม google แต่ผมทำแบบคนโบราณ ของชาวสวนฝั่งธนบุรี ...ผมได้แต่ จำๆ แล้วจึงนำมา เริ่มคิดทำ ในทุกวันนี้ ..สิ่งทั่เพิ่มเติมจากคนโบราณ คือ ผมใช้ หลักการของสามประสาน คือ 1 การเกษตร 2 พลังงาน 3 สภาพจิตใจ ..สามอย่างนี้ ผมนำมารวมกันเพื่อทำเกษตร โดยยังคงยืนยัน 1 ไร่ ต้องได้ 1 แสน ครับ
โดยขอเริ่มเรื่องพลังงาน ก่อนครับ ว่า ผมต้องทำไฟฟ้าใว้ใช้เพื่อการเกษตร ด้วย การทำกังหันลม เพื่อผลิตไฟฟ้า ที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ การทำใบพัด กังหันลม เพื่อผลิตไฟฟ้าใว้ใช้เอง เป็นของท่าน ฮิวส์..*** ...A Wind Turbine Recipe Book , ...The Axial Flux Windmill Plans ...Hugh Piggott ... January 2009 - Metric edition..***. ท่านใดใจร้อน ก็สามารถ อ่าน หนังสือเล่มนี้ ใน www.pradharm.com เป็น pdf file และสามารถ ทำตามได้เลย ...ส่วนผม ก็ เรียบเรียง ในความเข้าใจของผม ถ้าข้อเขียนผมไม่ตรงหรือ ต่างกับในหนังสือ ไม่ต้องถาม หรือ แสดงความเห็นใดๆ เพราะผมทำตามที่ผมเข้าใจว่า ต้องเป็นแบบนี้ ส่วนจะเป็นแบบอื่นหรือ ของผู้ใด ท่านก็ต้องไปถามท่านผู้นั้น ..ส่วนในเรื่อง Electronic ผมเอามาจาก Fundammental Electronic ของ ท่าน แมก กอ ฮิลล์ ก็แล้วแต่จะเชื่อ ส่วนผมเชื่อในสิ่ง ที่ผมคิด ที่ผมทำ และ ผลงานที่ออกมาแล้วเท่านั้นครับ..

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ ขนาด และมุมองศา เนื่องจาก ผมไม่ชำนาญ งานไม้ ผมจึงเลือกวิธีทำแบบง่ายๆ เครื่องมือผมก็ใช้ มีด ใช้เลื่อย และลูกหนู เท่านั้น ไม่มีกบไฟฟ้า ถ้าได้อ่านในหนังสือ จะเห็นว่า มีเครื่องมือมากกว่าผม ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องแก่ไขแบบ ในการทำใหม่ ้
เพื่อให้ผมทำได้เท่านั้น ไม่ใช่แก้ไข เพราะ ต้องการแบบให้ดีขึ้น ..ขอย่ำแก้ไข เพื่อให้ ทำได้ครับ ส่วน ในเรื่องไฟฟ้า ผมยึดตาม หนังสือ Basic Electronic หรือ Fundammental Electronic เพราะผมต้องเอามาใช้ ผสมกับ Solarcell ขนาด ประมาณ 300W 36V ..Inverter 2K 24VDC ..Load 1.5KW 220VAC วัตถุประสงต์ของผมดังที่กล่าวมานี่ จึงเป็น เหตุผล ที่ทำให้บางสิ่งบางอย่าง ต่างจากใน หนังสือ ครับ
...เริ่มเรื่อง เลย ครับ เรื่องการทำใบพัด .จากไม้ .

ปลายไม้แตกเห็นได้ชัด .. รอยแตกเมื่อทำเสร็จแล้ว ทาสี จะมองไม่เห็น

  ตามรูป ตรวจสอบได้ง่ายๆ โดยการวาง ไม้ 3 ชิ้น มาวาง ซ้อนกัน ปรากฏว่า ส่วนปลายของบางชิ้น กระดก ขึ้น ไม่ราบสนิทกัน      


1 ไม้ที่ทำใบพัด ทำได้จากไม้ทุกชนิด แต่มี ความสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า เมื่อทำใบพัดเสร็จแล้ว ใบพัดไม่งอ หรือ บิดเบี้ยวอันเกิดจากตัวไม้ ปกติโดยทั่วไปแล้ว ไม้ที่ยังสดเมื่อ แห้ง ไม้จะบิดเบี้ยว หรือแม้แต่ เป็นไม้ที่ได้มาตรฐาน อบแห้ง จากเมืองนอก ผมซื้อมา ทิ้งไว้ระยะหนึ่งก็ยังบิดเบี้ยว ใบพัดไม้เมื่อทำเสร็จแล้ว บิดเบี้ยวจะใช้งานไม่ได้ ครับ
ผมได้ไปซื้อ ไม้อบแห้งได้มาตรฐาน จากโรงขายไม้ ที่ถนนหทัยราษฎ์ มนบุรี ไม้ที่ซื้อมา ตรง เรียบ ดีมาก แต่เมื่อ เวลาผ่านไปเป็นดือน ไม้บางชิ้น บิดเบี้ยว แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถ แก้ไขได้ด้วย การเอา
เครืองเจีย พร้อม กระดาษทรายหยาบ เจีย ปรับแต่งให้ ราบ เรียบ ตรงได้ .." ไม้ทุกชนิด ที่ ไม่มีตาไม้ จะแพงกว่า ไม้ที่มีตาไม้
สรุป ไม้ที่ไม่มีตาไม้ จะดีที่สุดและแพงที่สุด แต่ไม้ทุกชนิดไม่ว่าจะดีมีคุณภาพ หรือไม่ดี ไม่มีคุณภาพ เมื่อทำเสร็จ ทาสี สวยๆ ก็จะทำให้ ไม่สามารถ รู้ได้เลยว่า ไม้ที่ใช้ทำใบพัด มีคุณภาพ ดีหรือ เลว ต่างกันอย่างไร .. ใบพัดไม้ที่ทำเสร็จแล้วนั้ จะต้องทาด้วย สารกันน้ำ สารกันน้ำมี หลากหลายยีห้อ ถูกแพงแตกต่างกันไป หรือจะไม่ทาสารกันน้ำ ทาสีอย่างเดียว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ ดังนั้น จึงเป็นข้อคิดว่า เวลาจะจ้างทำ หรือ จะซื้อสำเร็จรูป อย่าดูที่ราคา ต้องดู คุณภาพคนทำ และคุณภาพ วัสดุ ด้วย ครับ สงสัยสอบถามผม ได้โดยตรง ผมยินดีให้คำปรึกษาและคำแนะนำครับ

การทำใบพัดไม้กังหันลม
1 เมื่อเลือกไม้ ขนาด กว้าง 15 ซม หนา 5 ซม ยาว 120 ซม ที่ได้คุณภาพ หรือ เทียบเท่า ได้แล้ว ให้ดู ตามรูปประกอบ ..ให้จัดการแบ่ง ด้านความยาว ออกเป็น 6 ส่วนเท่าๆกัน คือส่วนละ 20 ซม ที่ด้านปลาย

เฉพาะเรื่องการทำใบพัด ที่ผมเขียนทั้งหมด และบางส่วนที่จะกล่าวต่อไป จะมี บ้าง บางข้อความไม่ตรงกับ ในหนังสือ ของท่าน ฮิวส์ หรือ ของท่าน อื่นๆ อีกหลายท่าน ที่ ทุกคนสามารถอ่านได้ ใน google

ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็เพราะว่า ผมเขียนตาม ความสามารถ ที่จำกัด และเครื่องมือที่จำกัด ของผม ผมจึงได้ ปรับปรุงและแก้ไขในสิ่งที่ผมต้องทำ เพื่อ ให้ผมสามารถ ทำได้จนเป็นผลสำเร็จ และขอย้ำว่า ไม่ใช่ผมเก่ง ทำและปรับปรุงให้ดีขึ้น ครับ ไม่ใช่นะครับ เพียงเพื่อทำให้ได้เท่านั้น
ดังนั้น ผลงานที่ออกมาจึงไม่นับว่า เป็นผลงานดีเลิศ ..ถ้าท่านทั้งหลาย อ่านแล้วชอบ ก็ทำตาม ทำไม่ได้ ก็มาหัดเรียน หัดทำ สอนให้ ฟรีๆ ครับ แต่ถ้าอ่านแล้วไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่ชอบใจ ผมก็ขอ ความกรุณาปล่อยผ่านไปครับ เพราะผมไม่ได้รับจ้างทำ หรือ รับจ้างสอน ผมเป็นแค่คนแก่ อายุ 71 ทำได้แค่เป็นตัวอย่างทำให้ดู เท่านั้นว่า การทำเกษตร พึ่งตนเองทำอย่างไร ครับ
การทำใบพัดไม้กังหันลม
กังหันลมที่จะทำเป็นขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 .4 เมตร หรือ ขนาด รัศมี 1.2 เมตร กำลังผลิต 300W 24V มีขั้นตอนการทำดังนี้
1 เลือกไม้ ขนาด กว้าง 15 ซม หนา 5 ซม ยาว 120 ซม ที่ได้คุณภาพ หรือ เทียบเท่า ให้ดู ตามรูป ที่ 1 ประกอบ ..ให้ ทำการ จัดการแบ่ง ด้านความยาว ออกเป็น 6 ส่วนเท่าๆกัน คือส่วนละ 20 ซม เมื่อวัดความยาวเสร็จแล้ว ให้ เขียน โดยรอบ ที่ด้านปลาย พร้อมเขียนระบุ ตำแหน่ง ตั้งแต่ ตำแหน่งที่ 1 ถึงตำแหน่งที่ 6 ตามรูปที่ 2 เมื่อเขียนเสร็จแล้ว ใช้เลื่อย มือ เลื่อยเอาชิ้นส่วนที่ไม่ใช้ออก เวลาเลื่อยต้องระวัง อย่า ออกแรงมาก ค่อยๆเลื่อย เลื่อยแบบเป็นการพักผ่อนออกกำลังกาย ..เลื่อยอย่าตรงเส้น เผื่อไว้ปรับแต่ง เมื่อเลื่อยเสร็จแล้ว ใช้ เครื่องเจีย ลูกหนู ติดแผ่นกระดาษทราย ราคาแผ่นละ 25 บาท ซื้อที่คลองถม กทม ทำการขัดแต่งจนได้รูปทรง ตามที่ขีดเส้นไว้ ..เมื่อเสร็จแล้ว ให้ วางที่พื้นราบเรียบ สังเกตุว่ามีการบิดเบี้ยวหรือไม่ ..ถ้ามีการบิดเบี้ยว ก็ให้ ขัดแต่ง จนหายบิดเบี้ยว ถ้าไม่หาย ก็ต้องโยนทิ้ง ไม่สามารถนำมาใช้ ทำใบพัดได้ ครับ


เมื่อขัดแต่งเสร๊จ ถ้าเส้นที่เขียนไว้ หายไปก็ต้องนำมาเขียนใหม่ ตามรูปที่ 2 เพื่อที่จะได้ กำหนดและ เขียน เส้น โครงสร้างทั้งสี่ด้าน ของใบพัดนี้ ครับ

 

     สวัสดี ปีใหม่ ฝรั่งที่ผ่านไป และ กำลังจะถึงปีใหม่นี้ ขอสวัสดีถึงทุกๆ ท่าน ครับ ด้วย เวลา ที่ผ่านไปหลายๆวัน เพราะ ผมกำลังเขียนแบบ และเตรียมการ ในสิ่งที่ผมทำ ..กำลังทำ และกำลังจะทำต่อไป ผมเขียนแบบ ใบพัดกังหันลม. แบบที่ผมเขียนนี้ รายละเอียดจะแตกต่างกัน กับของ ท่าน ฮิวส์ ที่ผมโพสต์ไว้ และ ของคนอื่นๆ ทั้งใน face book ทั้งใน google หรือ แม้แต่ของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเอง ที่ ทุกคนเข้าไปอ่านได้ ..ผมจึงขอ สรุป ง่ายๆ คือ ก็แล้วแต่ ท่าน จะ เชื่อใคร ชอบใคร ก็ เชื่อ ก็ทำตามคนนั้นดีที่สุด ครับ ส่วนแบบที่ผมเขียน ผมเขียน หลายแบบ หลายท่า และหลายมุมมอง รูปภาพที่ออกมา จึงมากกว่า ทุกๆแห่ง ที่หาอ่านได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้ ทุกๆคน สามารถอ่านและเข้าใจ ได้ง่าย จนนำไปสู่การทำได้ด้วยตนเอง แต่ถ้า อ่านแล้ว ทำแล้วมีปัญหา ติดขัด ก็ต้อง นัดแนะกันไปหาผมที่ หันคา ชัยนาท ครับ .ผมจะอธิบายพร้อมทั้งสาธิต วิธีทำ ด้วยตนเองโดยละเอียด..กังหันลมที่ผมแนะนำให้ทำนี้ ...ขอย้ำครับ ว่า ผมไม่ได้รับจ้างทำ หรือ ทำขาย เพราะทุกวันนี้มีคนทำขาย
และรับจ้างทำ มากมาย ครับ ..แต่ถ้าอยากทำแล้วทำไม่ได้ ผม แนะนำให้ทำให้ได้ครับ .. ** กังหัน ที่หัดทำนี้เป็นแบบกังหันลม ขนาดเสนผ่าศูนย์กลาง 2.4 เมตร กำลังผลิต 300W - 500W ทำไม จึง บอก 300-500 ..สาเหตุก็เพราะว่า ต้องขึ้นอยู่กับ ตัว brushless genrrstor ด้วย ซึ่ง ผมได้กล่าวมาแล้วก่อนนี้ ในเรื่องการผลิตไฟฟ้า ..ตัวใบพัดเป็นแบบ ใช้ใบพัดไม้ 3 ใบพัด ..การที่จะใช่กี่ใบ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ในการใช้งาน ของแต่ละท่านครับ ..ตัวเลข ต่างๆ ทีระบุในแบบล้วนแล้วแต่มีส่วนสำพันธ์ และสำคัญ ด้วยกันหมดหมดครับ -จะมีบ้างบางตัวเลข ที่อาจจะพิมพ์ผิด เพราะไม่ได้ตรวจ ก็ โต้แย้ง ซักถามมาได้ครับ
*** ผมยังคงยืนยันว่า 1 ไร่ ต้องได้ 1 แสน หมายถึงว่า มีกำไร เท่านั้นครับ ระยะเวลา 3 ปีไปแล้ว นับจากที่ผมลงมือปลูกต้นแรก ครับ ทำไมผมจึงกล้าคิดเช่นนี้ ..สาหตุก็เพราะว่า ผมทำเกษตรผมจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า เมื่อ ผม ทำไฟฟ้าได้ ผม จึงทำเกษตรแบบสบายๆๆ ง่ายๆ ตามประสาคนแก่อายุ 71 ผมทำเกษตรเป็นการพักผ่อน และก็เป็นการออกกำลังกาย เท่านั้นครับ แต่ถ้าจะมี ผลพลอยได้อย่างอื่น ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี ครับ

 

 
  ตามที่เห็นในรูป คือ ลูกหนู ลูกหมู แล้วแต่จะเรียก และกระดาษทราย เป็นเครื่องมือชิ้นแรก ที่ผมใช้อยู่ ลูกหมู เป็นคำพูดที่ชาวบ้านๆ เรียกขานกัน ตามร้านขายเครืองมือ จะเรียก เครื่องเจีย เครื่องขัด หรือ เครื่องตัด วิธี ใช้งาน ทำได้โดยการเปลี่ยนใบตัดเหล็ก เป็นกระดาษทรายแทน ใบขัดกระดาษทรายมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบขัดเรียบ ราบ และขัด ส่วนโค้งหรือ เป็นส่วนเว้าแหว่ง ในการใช้งาน ก็ ให้ใช้ใช้ตามลักษณะเนื้องาน ที่จะทำ ใบเบื้องต้นนี้ ผมใช้แบบขัดราบ และเรียบ ผมนำไม้ที่เลือกไว้ นำมาขัดส่วนที่หยาบออก ... ผมขอบอกว่า ผมทำแบบคนไม่เป็นงาน ผมไม่ได้เป็นช่างไม้ และก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญงาน ดังนั้นขั้นตอนและวิธีการ จึงต้องมีมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเคยทำแล้วเสียมาเยอะ
การทำใบพัดไม้ 3 ใบพัดนี้ **** ข้อที่จะต้องจำและเข้าใจคือ จะต้องทำให้ ทั้ง 3 ใบ เหมือน กัน ..*** เพราะถ้าไม่เหมือนกัน เวลาที่ใบพัดหมุน จะแกว่งใช้งานไม่ได้ และ อาจจะทำความเสียหายอย่างอื่นเกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้ ทุกขั้นตอนที่ทำเสร็จจะต้องมีการตรวจสอบ ให้แน่ใจว่า จะต้องเหมือนกันทั้ง 3 ใบ ...การทำช้า ไม่เป็นไร ดี กว่า ทำเร็ว แล้วเสีย ... นี่คือเหตุผลที่ว่า เมื่อซื้อไม้มาแล้ว ทำไม ต้อง มาขัด กระดาษทราย ทุกๆด้าน ทุกๆส่วน คือ ขัดทั้งหมดโดยรอบ นั่นเอง
เมื่อขัดกระดาษทรายเสร็จแล้วก็นำไม้ มาวางกับพื้นที่ราบเรียบ ตรวจสอบ ว่า ไม้ มี การ บิด เบี้ยว หรือ ไม่ ... ถ้ามีการ บิดเบี้ยวก็ ใช้ ลูกหมู ที่ติด กระดาษทรายหยาบ ขัด แต่ง จน หาย บิดเบี้ยวได้รูปทรงที่ ดี เพื่อนำมา เขียน สัดส่วน รูปแบบต่างๆ ตามแบบ เพื่อที่จะตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกไป

จบ การทำ กังหัน ใบพัดไม้ ครั้งที่1
 

 

เมื่อวันที่ 30 ธค เวลาบ่าย ผมได้ไปดูการปลูกเห็ดโคนน้อย ที่คลอง12 ปทุมธานี ของ... สวนพันธ์ุไม้สิริยา นอนบ้านดิน กินข้าวแกง (Siriya Farm) ... ชื่อใน facebook ไปดูการปลูกเห็ดโคนน้อย ว่า ทำอย่างไร ทำได้จริงหรือไม่ ผลจะเป็นอย่างไร เมื่อ ผม ได้ ดู และได้ซักถามจนเข้าใจ ก็เลย ทำให้ ผม มั่นใจ และ ตัดสินใจใน การ ทำเกษตร 1 ไร่ ต้องได้ 1 แสนบาทต่อปี ( หักค่าใช้จ่ายแล้ว แต่ไม่รวมค่าแรงของผม) ด้วยการปลูก มะนาว และ ปลูก เห็ดโคนน้อย ...ตามที่มีหลายๆ คนเคยถามผมมา ว่่า ผม จะ ปลูก อะไร ดังนั้น ผมจึงขอตอบแบบ สรุปในเบื้องต้นว่า เมื่อผม ทำห้องน้ำเสร็จ ผมก็จะเริ่มต้นปลูกมะนาว และ เตรียม ทำโรงเพาะเห็ดโคนน้อย โดยมีคุณ นิว (สิริยา เป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำ เพราะผมเชื่อว่า เป็น การทำ เกษตร ที่ สามารถทำตามเป้าหมายที่หวัง คือ 1 ไร่ ต้องได้ 1 แสน ต่อปี (กำไร แต่ไม่รวมค่าแรง ของผม) นั่นเอง..*** ส่วน มะเดื่อ ผมปลูกใว้ แจก สำหรับ ผู้ที่อยากปลูก ชอบปลูก เวลาไปเยี่ยมชมผม ครับ มีพันธ์ พานาซี่ BTM6 ของอิตาลี 2 สายพันธ์ ตุรกี

 

3 สายพันธ์ สเปน 2 สายพันธ์ุ ที่จำชื่อไม่ได้เพราะสั่งกิ่งพันธ์มาเยอะ ตายเยอะ ครั้งล่าสุด สั่งมาแล้วก็ไม่อยากจำ เพียงแค่ให้รอดก็พอใจ ส่วนผู้ที่ขอผมใว้ผมไม่ลืม สงกรานต์นี้ ยังจะแจกให้อยู่ ครับ ในการปลูกมะนาว และการทำเห็ดโคนน้อย ในมุมมองของผมจะมีส่วนสัมพันธ์กัน ..ตามความคิดที่กำหนดไว้ ผลผลิตของผม ไม่ว่าจะเป็น มะนาวหรือ เห็ด ผมจะให้แม่ค้าเป็นคนเก็บผลผลิตเอง เพราะผม ชายแก่ อายุ 71 ตัวคนเดียว ทำไม่ไหว ผมกำหนด ราคาตลอดปี ราคาเดียว คือ มะนาว กก ละ 40 บาท เห็ด กก ละ 60 บาท ราคานี้ แม่ค้า และทุกๆท่าน ถ้าสนใจ ก็ติดต่อ ผมมาได้เลย ผมทำแบบคนโบราณ แบบชาวสวนฝั่งธนบุรี บางคูเวียง เมือ 60 ปีที่ผ่านมา คือ มะนาว ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ออกดอก ติดลูกเท่า หัวไม้ขีด ก็ขายให้ คนรับซื้อ หลังจากนั้นผู้รับซื้อ ก็จะมา ดูแล เวลาเก็บผลผลิต ก็คิดราคาตามที่ได้ตกลงกัน ผมทำแบบเดียวกัน ครับ มะนาว ผมก็ ออกลูกทั้งปี ( ผม ทดลองทำได้แล้ว) เห็ดผม ก็ ขายทั้งปี ผู้ซื้อ ผลผลิต มีที่พักไห้ อยู่อาศัย เพื่อดูแลผลผลิต ที่ตัวเองจับจองซื้อไว้ ครับ

 

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอเริ่ม งานทำกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าใว้ใช้เองต่อไปครับ ...ขอย้ำ ซ้ำๆ หลายครั้งว่า ทำเพือผลิตไฟฟ้า ไม่ใช่ทำเพื่อความสวยงาม หรือ ทำเพื่อ แก้เคล็ด หรือ ทำเพื่อ จุดประสงค์อื่นใด ๆ ทั้งสิ้น ทำเพื่อผลิตไฟฟ้าเท่านั้นครับ ... เครื่องมือ ครั้งนี้ คือ ปากกา และ บรรทัด ตามรูป บรรทัดต้องยาว หน่อยครับ ..ผมนำไม้ ทั้งใหญ และเล็กมาให้ดู ตามรูป โดยการแบ่ง ออกเป็น 6 ส่วนเท่าๆ กัน ถ้า ยาว 120 ซม ก็จะได้ส่วนละ 20 ซม ถ้า 90 ซม ก็จะได้ส่วนละ 15 ซม ในการทำงาน การวัด ของผมเวลา เขียนเส้น ผมจะใช้เป็นสัดส่วน โดยที่ทั้งใหญ่ และเล็ก จะมีสัดส่วนที่เหมือนกัน ไม้ชิ้นใหญ่ คือ ขนาด กว้าง 15 ซม ยาว 120 ซม หนา 5 ซม..ที่ด้านปลาย ระบุ ตำแหน่งที่ 1 ถัดลงมาเป็นตำแหน่งที่ 2 และ 3 และ 4 และ 5 จนถึงตำแหน่งที่ 6 ตำแหน่งสุดท้าย ที่ปลายสุดวัดออกมา 6 ซม ..ลากเส้นเฉียงๆ ไปที่ ตำแหน่งที่ 5 ก็จะได้ ส่วนที่ต้องตัดออก

 
วันนี้ วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ผมได้ตัดสินใจ ปลูกพืช 2 ชนิด เป็นที่ แน่นอน คือ ปลูกมะนาว และ เพาะเห็ดโคนน้อย ใน โครงการ 1 ไร่ต้องมีรายได้ 1 แสนต่อปี ..วันนี้ ผมไปที่ ไทวัสดุ ซื้อ ผ้าใบสีดำ ขนาด ยาว 20 เมตร เพื่อมาทำโรงเพาะเห็ด ตามแบบที่ผมได้รับมา แต่ ผมคงไม่ทำให้เหมือนทั้งหมด ผม ต้องออกแบบตามผ้าใบที่มีอยู่ ผ้าใบซื้อมาราคา 811 บาท รวมค่าไม้ไผ่ 130 บาท สรุป 1 โรงเรือน ลงทุุน ไม่เกิน 1,000 บาท ผลจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ เพราะเวลานี้ เท่าที่ผมได้ติดตามจากสวนสิริยา นอนบ้านดิน กินข้าวแกง 1 โรงเรือน เก็บเห็ดมาตั้งแต่วันที่ 28 ธค จนถึงวันนี้ 5 มค ก็ยังคงเก็บอยู่ จึงประมาณ ว่า เก็บเห็ดได้ 20 กก ต่อเดือน ส่วนตัวผมตั้งเป้าใว้ 5 กกต่อเดือนผมก็พอใจแล้วครับ ดังนั้น จึงทำให้ผม
เวลานี้ ผม ทำได้ แค่เตรียมการ เพาะเห็ดโคนน้อย เพราะผมทำคนเดียว ชายแก่อายุ 71 ไม่สามารถทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เหนื่อยก็หยุดพัก งานหนักไม่เอา เลือกแต่งานเบาๆ งานหนักต้องหาคนช่วย ..สิ่งที่ผมต้องทำ คือ ผ้าใบสีดำ ที่ซื้อมา ต้องไม่เสียเศษ ต้องทำให้ได้ 1 โรงเรือนอย่างแน่นอน ..

สวัสดี ปีใหม่ ซ้ำๆ อีกครั้งครับ ผมยังคงทำ มั่วๆ ทำหลายสิ่งหลายอยา่งไม่เสร็จ สักอย่าง เวลานี้ ที่เสร็จ ก็คือ แบบโรงเพาะเห็ดโคนน้อย ที่ดัดแปลงแก้ไข มาจากแบบเดิม เพราะว่า ถ้าทำตามแบบเดิม ผ้าใบจะเหลือเศษ จึงต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขใหม่ โดยปรับเปลี่ยนเป็น โรงเพาะเห็ด ขนาด กว้าง 1 เมตร ยาว 2.8 เมตร สูง 2 เมตร เป็นแบบ ที่ผมเตรียมทำ เฉพาะแบบ ผมทำ เสร็จแล้วครับ แบบ ขนาด นี้ ผ้าใบที่ซื้อมา 1 ผืน ความยาว 22 เมตร ใช้หมดพอดี ไม่เหลือเศษ ผ้าที่ต้องทิ้ง แบบนี้ ใช้ไม้ไผ่ลวก 4 มัด ๆ ละ 100=400 บาท ซื้อที่ มินบุรี กทม ผ้าใบหุ้มโรงเรือน 11 เมตร ราคา 410 บาท ซื้อที่ ไทวัสดุ มินบุรี ( ซื้อ 1 ผืน 22 เมตร ทำได้ 2 โรงเพาะเห็ด ) พลาสติค สี ดำปิดประตู 45 บาท ค่า ลวด และสกูร 45 บาท ทั้งหมด รวมเป็นเงิน 900 บาท ไม่รวมค่าแรงของผม แต่ในความเป็นจริง ต้องคิดค่า ออกกำลังกายด้วย เพราะผมทำเป็นการพักผ่อนและออกกำลังกายนั่นเอง เมื่อแบบเสร็จแล้ว ของ อุปกรณ์ที่ใช้ทำมีครบแล้ว ผมก็จะเริ่มทำโรงเพาะเห็ด ครับ

ล้มเหลว ๆ ไม่เป็นท่า คือ ตั้งด้วยตัวเองไม่ได้ครับ ล้ม ต้อง มีปักดินด้วย ครับ .แต่.แบบ โรงเพาะเห็ดของผม ต้องตั้งแบบอิสสระได้ หมายถึงว่า เมื่อเสร็จแล้วเอาไปตั้งที่ไหน ก็ได้ จึงทำให้ ผมต้องรื้อทิ้งทำใหม่หมด เพราะ แบบนั้นดี แต่ตัวผมเอง ไม่เหมาะกับแบบ ที่ทำ ..ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องแก้ไข แบบให้เหมาะกับตัวผมครับ ..ตามแบบความกว้าง 1 เมตร ผม จำเป็นตัองแก้เป็น 90 ซม แก้แล้ว ทำเสร็จแล้วก็ยังไม่ดี ทำให้ตัองแก้เป็น 80 ซม ครับ เพราะถ้าเป็น 1 เมตร หรือ 90 ซม มือ ผมสั้น เวลาเก็บเห็ด เอื้อม ไม่ถึง เก็บเห็ดไม่ได้ ..โรงเพาะเห็ด ผมทำคล้ายๆ น็อกดาวน์ เมื่อผมทำ ตามรูป เสร็จแล้ว ตั้งไม่ได้ ล้ม แบบง่ายๆ เพราะผมไม่ได้ปักเสาลงดิน ตั้งลอยๆ ไว้บนพื้นราบ ..

 

เพื่อ ป้องกันการล้มที่ง่ายๆ ทำให้ผมต้องเสริมการยึด เป็นรูป เฉียงๆ ทะแยงๆ ตามรูป เมื่อผม เสริมการยึดในหลายๆ ส่วน ของโรงเพาะเห็ด จึงทำให้โรงเพาะเห็ด ผม เป็นแบบตั้งที่ไหนก็ได้ ที่เป็นที่ราบเรียบ .....ผมขอเลีาประสพการณ์ ที่ผ่่นมาในชีิวิตของผม ว่า ..ไม่มีอะไร ที่ทำได้ง่ายๆ ครับ หรอกครับ ..โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าใว้ใช้เอง ซึ้งผมเวลานี้ผมหยุดไปเพราะมัว แต่ มาเตรียมการเพาะเห็ด แม้แต่เรื่องการเพาะเห็ด ก็เช่นกัน ..บอกตรง แบบ จริงใจ ว่า พูดง่าย แต่ทำยาก ครับ เพราะมี ปัญหา ข้อปลีกย่อยเยอะ อีกมากมายครับ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าผมไม่ตายซะก่อน ผมทำไห้ดูครับ ถ้า ดี ก็ทำตามได้เลย ถ้าไม่ดี ก็คือว่า เป็น กรณี ศึกษา ครับ

สรุป แบบที่ผมทำอยู่ คือ กว้าง 80 ซม ยาว 2.8 เมตร สูง 1.8 เมตร ครับ

วันนี้เตรียมทำ ผ้าคลุมโรงเรือน เพาะเห็ด แนวทางการทำจะเป็นแบบถอดได้ เพราะต้องถอดมาทำความสะอาด ทุกครั้งที่มีการ เพาะเห็ด ครั้งต่อไป สาเหตุที่ต้องถอดมาล้างเพราะภายในโรงเรือนเพาะเห็ดทุกชนิด จะมี ริ้น ไร เชื้อรา และ แบคทีเรีย มากมายหลายชนิด พวกนี้จะ เป็นอันตรายต่อการเพาะเห็ด ครั้งต่อไป จึงตีองมีการทำความสะอาดโรงเพาะเห็ดนั่นเอง

หยุดโพสต์ไปหลายวัน พอดีที่พักชัวคราว อยาก จะสวยบ้าง จึงให้ช่างมาปูกะเบื้อง ปูไม่ทันเสร็จ ผมสั่งหยุดงาน แปลว่าเลิก เพราะอะไร สาเหตุก็เพราะว่า เป็นได้แค่ชื่อว่า เป็นช่าง เท่านั้น แต่ในการทำงาน พื้นฐานการทำงานทางช่างไม่มีเลย พื้นฐานทางช่าง ได้แก่อะไรบ้าง ก็มีดังนี้ ครับ 1 อย่า ทำงานแบบมักง่าย โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนทั้งของตัวเองและของผู้อื่น ซึ่งข้อนี้ผม ถือสา มาก 2 ทำงานแบบหมกเม็ด คือ ทำงานเสร็จแล้ว มองดูแล้วดีมาก แต่ความจริง ไม่ดี ต่างกับการทำงานแบบชุ่ยๆ เพราะการทำงานแบบชุ่ยๆ มองดูก็รู้ว่า ทำงานเลว.. บังเอิญผมเคยเป็นช่าง และคูรช่างด้วย เมื่อผมเจอแบบนี้ ผมจึงสั่งหยุดงานทันทีโดยไม่คำนึงถึงอุปกรณ์ที่ยังทำไม่เสร็จ เช่น ปูน ทราย เป็นต้น..ในกรณีโรงเพาะเห็ด ที่ผมทำ ก็เช่นเดียวกัน ที่ท่านทั้งหลาย แทบจะทุกคน รู้ว่า ภายในโรงเพาะเห็ด จะมี ริ้น ไร รา และแบคทีเลีย มากมาย หลากหลายชนิด ทำให้ ผมต้องเลือก และดัดแปลงออกแบบให้ ทั้งคนเก็บเห็ด และเห็ด มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย ...ผมขอบอกซ้ำ ย้ำเตือน ตลอดเวลาว่า สูขภาพ และ ความปลอดภัย ในชีวิต ต้องมาก่อนเสมอ ครับ ในเรื่องการเพาะเห็ดก็เช่่นเดียวกัน จะต้องเป็นแบบที่ทำความสะอาดได้งีายๆ .. ส่วนเรื่องอื่นๆในทุกเรื่องราวที่ผมทำ นั้น ผม ยังคงทำต่อไป ..รายละเอียดที่ผมเคยเขียนมา หาอ่านได้ ใน www.pradharm.com. ในหัวข้อ .. ข่าวสารและกิจกรรม ...ซึ่ง มีหลายหัวข้อ และหลายเรื่องราว แต่ก็มีบางเรื่องราวที่ผมหยุด ก็เพราะ ผมมีปัญหา เมื่อมีปัญหาก็ตัองหยุดแก้ไข เมื่อแก้ไขได้แล้วจึงทำต่อไป นี่คือหลักการทำงานของผม ครับ
 

     

ผมลองวาดฝันเล่นๆ ว่า

1 โรงเรือน ใช้เนื้อที่ 1 ตารางวา
1 โรงเรือน ได้ 5 กก (สวนต้นแบบไดั 20 กก )
1 กก = 50 บาท
5 กก = 1 ตารางวา = 250;
1 ตารางวา 5 กก = 250
50 ตรว= 250 กก =250 x 50 =12,500 บาท

ถ้าสมมติ 100 ตารางวา
จะได้เห็ด 500 กก
กก ละ 50 บาท
จะมีรายได้ 25,000 บาท /เดือน

ผมได้การลงทุนที่แน่นอน มาแล้ว ครับ 1 เชื้อเห็ด 15 ก้อน ราคาก้อนละ 15 บาท 15 × 15 = 225 บาท ..
แป้ง กก ละ 25 บาท 2 กก 2 × 25 =50 บาท
รำ 2 กก.. กกละ 15 บาท 2×15=30 บาท
ยูเรีย 2 กก ..กก ละ 25 ..2×25=50 อาหารเสริม30 บาท
= 225+50+30+50+30=385
ได้เห็ด 5 กก ๆ ละ 77 =385
การลงทุนเพาะเห็ด 1 ครั้ง เงินทุน ที่ ทำเห็ด อยู่ที่ กก ละ 77 บาท ดังนั้น จะต้องขาย กก ละ
100 บาท ถ้า ขายต่ำกว่า กก ละ 100 บาท อยู่เฉยๆ ดีกว่า ครับ
ปัญหาที่จะเกิดขึ้น คือ ทำอยีางไร จึงจะขายไดั ..ในความคิดของผม ขณะนี้ ถ้าจะทำเห็ดเป็นธุรกิจ ก็ ไม่น่าทำ ครับ เพราะผมคิด ขายแค่ กก ละ 50 บาท เท่านั้น .... แต่ ที่ผมทำต่อไปเพราะผมทำเป็นการพักผีอน และเป็นการออกกำลังกาย เท่านั้น ครับ
สวนผม ที่พักผม ติดตั้ง internet เสร็จแล้ว ดังนั้น ผม จึง เริ่มต้นแล้วครับ ..เริ่มต้น ..ตนเป็นที่พึ่งของตน ..เวลานี้ ผมได้ทดสอบ ระบบการ ทำเกษตรที่พึ่งตนเอง ของผม บนโต๊ะก่อนครับ คือ ผม ชายแก่ อายุ 71 ตัวคนเดียว ทีีทำได้มีดังนี้ ครับ ..1 ผม มองตรวจดูต้นไม้ ..ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น แก่ต้นไม้ และตัวผมเอง ..ตรวจสอบ ความจริงที่เกิดขุ้นว่าจริงไหม เพราะผมทำงาน ทุกอย่าง ผมต้องมีการตรวจสอบ เป็น ระยะๆๆ นั่นเอง ..2 ผมรดน้ำ พืชผัก และ รดน้ำต้นไม้ ที่ผมปลูก ..3 ผมให้น้ำโรงเพาะเห็ด เพราะการให้น้ำโรงเพาะเห็ดจะมีความแตกต่างกับ การปลูกพืช ..4 ผม เปิด ปิด ไฟฟ้า แสงสว่าง เวลาที่ อยู่ บ้านสวน และไม่อยู่บ้านสวน เพราะเดียวนี้ อายุมากขึ้น ความจำ ก็ มากตาม ..5 ผมใช้พ่น ยาป้องแมลงคลานและแมลงบิน ที่อยู่ และ ต้นไม้ของผมต้องปลอดภัย ...สรุป ผมทำทั้งหมด 4 รายการครับ คือ รดน้ำ 2 รายการ ไฟฟ้า 1 รายการ ยาป้องกันสิ่งแปลกปลอม 1 รายการ ผม ทำคนเดียว ทำในเวลาเดียวกัน พร้อมๆกัน หรือ จะทำทีละรายการ ตามแต่ใจที่ต้องการ ครับ ...นี่คือความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น และ จะเกิดอย่างสมบูรณ์ 1 มีนาคม นี้ครับ ผมเริ่มต้นทำเกษตร ในแนวพึ่งตนเอง 1 มีนาคม 2561 ครับ ส่วนระบบที่ผมทำ ก็ยินดีให้ผู้ที่สนใจได้ ดู ถ้าชอบจะทำตามก็ยินดีให้ทำแนะนำ ครับ ผมขอยืนยันและบอกซ้ำๆว่า ผมไม่ได้รับจ้างทำครับ ผู้ที่รับจ้างมีมากมายใน เฟส นี้แล้วครับ ผมเพียงแต่นำมาบอกเล่าสู่กันฟังครับ
ชุด ระบบ การพึ่งตนเอง จะช่วยผมใน 4 เรื่องหลักใหญ่ๆ คือ ...1 การ เปิด ปิด ไฟฟ้าส่องสว่างหน้าบ้าน ทุกวันนี้ ด้วย อายุวัย 71 ปี ของผม บางครั้งความ จำเลอะเลือน จำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง ว่า ตัวเอง ปิดไฟ หรือ ยัง หรือเวลากลางคืน เปิดไฟหรือยัง คือ ผมไม่มีความแน่ใจ ในตัวเอง ทำให้ ทุกวันนี้ผมต้องใช้ การดูจาก กล้อง ip cctv ผ่าน มือถิอ ถ้า ดูที่จอ มือถือ ดูแล้ว เห็นว่า ไม่ได้ปิด หริอ ไม่ได้เปิด ก็ เปิด หรือ ปิด ผ่านทางมือถือที่ผมใช้อยู่ ทำเพียงแค่ใช้ นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าจอ ของมือถือ เท่านั้น สดวกมากๆๆ ผมเคยใช้ ระบบอัตโนมัติ ข้อปลีกย่อยและบกพร่องมีมาก ผมจึงเลิกใช้ ครับ
2 การลดน้าต้นไม้ ในอดีต ห้าสิบกว่าปี ที่ผ่านมา ผมทำระบบ ตั้งเวลาอัตโนมัติ ผมรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก ที่บางครั้ง บางโอกาศ ในขณะที่ฝนตก มีการลดน้ำต้นไม้โดยอัตโนมัติ ผมจึงเลิกใช้และไม่แนะนำให้ใครใช้อีกเคย แต่ ระบบปัจจุบันที่ผมใช้อยู่ มีความแน่นอนดี มากๆ ผม ทำได้ ด้วยการดูจาก มือถือของผม online และ real time 24 hr. ถ้าผมจะอดน้ำ ต้นมะนาวเพื่อทำให้มะนาวออกนอกฤดู ผม ก็จะเริ่มอดน้ำ และเมื่อใบเริ่มเหี่ยว ผมก็ เริ่มรดน้ำ ใหม่อีกครั้ง โดยทำเพียงแค่ใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าจอ มือถือเท่านั้น เห็นหรือยังครับว่า ผมทำเกษตร เบาแรงและง่ายเพียงใด ???
3 ผม ฉีดยาฆ่าแมลง เมื่อเห็น หรือ เข้าใจว่า มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในพื้นที่ ของผมโดยที่ผมไม่อนุญาติ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็น คน หรือ สัตว์ หรือ แมลง โดยที่ผม มอง และ สังเกตุ ผ่านทาง มือถือของผม online 24 hr. real time ความแน่นอน แม่นยำสูงมาก โอกาศ พลาด มีน้อยมากครับ ผมควบคุมการทำงานโดย ทำเพียงแค่ใช้ นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าจอมือถือ ของผมเท่านั้นครับ เรื่องแบบนี้ ผมยินดีให้มาทดลองกับผมได้เลยครับ
4 เป็นเรื่องปฏิบัติการพิเศษ ตามความต้องการของชิ้นงานนั้นๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีความต้องการไม่เหมือนกัน สำหรับผมใช้ในการพ่นน้ำ และเปิดไฟ เพื่อตัดใยของเห็ด ( ตามที่ผู้รู้เรื่องเห็ดสอนมา ) ผมก็ ทำได้โดยการ มองดูที่หน้าจอมือถือ ผ่านกล้อง ip camera online real time 24 hr. โดยควบคุมและสั่งการด้วยการใช้ นิ้วมือ แตะสัมผัสเบาๆ ที่หน้าจอ มือถือ ของผม เท่านั้น ก็เป็นอันเสร็จ..
 

...ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เห็นหรือยังครับว่า ทำไม ผมชายแก่ อายุ 71 อยู่คนเดียว จึงกล้าทำเกษตร ทั้งๆที่ การเกษตรเป็นงานที่หนักมาก .
ผมสามารถ ทำได้แม้ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว ทุกๆ สถานที่ ที่มี internet ... ด้วยความจริงใจ ผมฝากให้นักเดินทาง เป็นข้อคิด พิจารณา ด้วยครับ
... เม ย 2561 วันสงการณ์ ปีนี้ เป็นวันที่ผมเริ่มต้น ทำเกษตร และยินดีต้อนรับ ให้ท่านที่สนใจ มาเยี่ยมชมได้ครับ ถ้าอยากทำเหมือนผม บ้าง ผม ก็ มีความ ยินดีและเต็มใจ แนะนำ ครับ
การที่จะทำได้แบบนี้ ในอดีต หลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ลำบกและสิ้นเปลืองเงินทองมากมาย ต่างกับในปัจจุบัน เวลานี้ที่เป็นเรื่อง ง่ายมากๆ ง่าย และก็มีราคาถูก แบบไม่อยาก จะเชื่อ ต่อเมื่อผมได้ ทดลองทำแล้วจึง เชื่อว่าเป็นไปแล้วเป็นเรื่องจริงแล้ว ผมหวังที่จะทำแบบนี้ มาหลายสิบปีแล้วครับ ผมสมหวังในสิ่งที่ผมอยากทำแล้วครับ
การปลูกเห็ดโคนน้อย ครั้งแรกของผม ถือว่า ได้ผลพอสมควร แต่ก็ไม่ดี อย่างที่ ผมหวัง เพราะ ชั้นบนสุด ได้ผลดีตามเป้าหมาย แต่ ชั้นล่างแถบจะไม่ได้ผล.หรือจะบอกว่าไม่ได้ผลเลยก็ว่าได้ วิธีการที่.ผมปลูก ก็ ปลูก โดยการแช่ ฟางข้าวกับปุ่ย อย่างเดียว ไม่ได้ใส่ อาหารเสริมใดๆ ทั้งสิ้น .. เมื่อเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ผมเก็บได้ น้ำหนัก 2 กก ..ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ไม่รู้ จะขายให้ใคร จึงต้อง แจก และกินเอง ..
แนวทางการปลูกของผม ก็เป็นแบบง่ายๆผมโบราณๆ บางอยรางก็เอาของที่ใช้แล้ว มีขายที่คลองถม กทม การเพาะเห็ดโคนน้อย เวลาปลูก เตรียมโรงเรือนใช้แค่ ..คนเดียว.. คือ ผมเอง.. หลังจากปลูก เตรียมโรงเรือนเสร็จแล้ว การดูแล รักษา ใช้ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เท่านั้น ก็ปลายนิิ้ว ของผม เช่นเคย จะใช้คนอีกครั้งก็เวลาเก็บเท่านั้น นอกจาก การเพาะเห็ดแล้ว มะนาว มะเดื่อ ผมก็ทำแบบเดียวกัน ผมเพียงแค่ใช้ ปลายนิ้ว สัมผัสเบาๆ เท่านั้น ในการทำเกษตร ของผม ..ชายแก่ๆ อายุ 71 ผม ทำเกษตร คนเดียว เท่านั้นครับ ที่ผม หนักใจ คือ ผมขายไม่เป็น จริงๆครับ ? ? ? ด้วยเหตุนี้ ผมจึงประกาศ หาคน มาช่วยผมขาย ครับ รายได้ หรือ ผลประโยชน์อื่นใด แบ่ง ครึ่ง ครับ ....ต้องเข้าใจ นะครับ ว่า ..ผมปลูกเป็นการออกกำลังกาย เป็นการพักผ่อน และที่สำคัญ เป็นตัวอย่างต้นแบบ ให้ผู้ที่ สนใจ และชอบ การทำเกษตร ในแนวทางแบบผม โดยจะ ทำตามผม เป็น การดูจากของจริงที่ผม ทำได้แล้ว แต่ถ้าทำตามผมไม่ได้ ผมก็จะแนะนำ จนทำได้ครับ ผมจะเปิดให้ คนทั้วๆไป ได้ ชมและ ศึกษาเรียนรู้ หัดทำ เริ่มตั้งแต่ 1 พค 2561 ที่ ศูนย์การเรียนรู้การพึ่งตนเอง ที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท เป็นต้นไป ครับ
 

ครั้งที่2 วันที่ 5 เมษายน 61
..ผมขอ. เริ่มต้น บอกเล่าในรายละเอียด ของ การจัดสร้าง รถไฟฟ้า 3 ล้อ
1.. ผมขับรถเล่น เที่ยวไปตามที่ต่างๆ เมื่อ ผมขับรถ ผ่านไปที่ รังสิต บริเวณ คลอง14 ผมเห็นร้านรับซื้อเศษเหล็ก มี มอเตอร์ไซด์ เก่าๆ โทรมมากๆ มีสภาพ ไม่เป็นมอเตอร์ไซด์ คือมีแค่โครงคานรถเท่านั้น เครื่องนนต์ ล้อรถ ไม่มี ผมจึงแวะเข้าไปขอโครงรถ เจ้าของร้านรับซื้อเศษเหล็ก ขายผม ในราคา 500 บาท ขณะเดียวกัน ผมมองเห็นล้อเก่าๆ โทรมๆ อีก 3 ล้อ ใหญ่ 1 ล้อ เล็ก 2 ล้อ ผมขอซื้ออีก แต่เจ้าของไม่ขาย แถมให้ผมฟรีๆ เพราะโครงรถ ผมถอดเหล็กที่ไม่ต้องการออกเอาแต่โครงเท่านั้น ....
2 ..ล้อรถ ทั้ง 3 ล้อ ผมถอดอุปกรณ์ทุกอย่างออกหมด เหลือ แต่โครงวงล้อเท่านั้น
เวลานี้ ผมจึงมี วงล้อที่ใหญ่ 1 วง ..วงล้อที่เล็ก 2 วง ผมใช้แค่วงล้อเท่านั้น อย่างอื่น ทิ้งหมด..
3..ผมไปที่ตลาด คลองถม กทม ซื้อ มอเตอร์รถไฟฟ้า ขนาด 350watt 36voltDC
ที่ร้านนี้ มีมอเตอร์หลายชนิด หลายขนาด และหลายแบบ ให้เลือก มากมาย ดังได้กล่าวในตอนต้นว่า ผมเลือก 36 voltDC 350 watt เป็นเครื่องต้นแบบ ในการสร้างของผม ..ผมซื้อในราคา 3,200 บาท
4...ผมนำมอเตอร์ รถไฟฟ้าที่ซื้อมา ประกอบกับวงล้อวงใหญ่ โดยการไปซื้อซี่ลวด สำหรับล้อรถ ที่ร้านอาหลั่ย มอเตอร์ไซด์ ซี่ลวดนี้ใช้สำหรับ ล้อรถมอเตอร์ไซด์ โดยการเลือก ใช้เบอร์ขนาดสั้น ่ยาวตาม ขนาดของล้อรถ ระหวีางที่ประกอบ ก็ต้อง วัด และเล็งให้ได้ศุนย์ล้อ ตลอดระเบที่ทำ ไม่ต้องรีบร้อน
นำล้อ ที่ประกอบเสร็จไปที่ร้านซ่อทมอเตอร์ไซด์ ซื้อ ยางใน และยางนอก ใส่ที่วงล้อ เป็นอันเสร็จ เรื่องล้อหน้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน..ดังนั้น จึงถือได้ว่า ประกอบ และ ทำล้อที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเสร็จ ...
ขั้นตอนต่อไปคือ ผมก็เดินทางไปที่ คลองถม กทม เช่นเคย ไป ซื้อแบตเตอรี่ 3 ก้อน ๆ ละ 800 ขนาด 10A12VDC มาต่อเข้าด้วยกัน ก็จะได้ แรงไฟฟ้า 36VDC ตรงกับที่ มอเตอร์ ต้องการ.ใช้งาน ..ขณะเดียวกัน ก็ซื้อ ชุดควบคุม ได้แก่... คันเร่ง... การบังความเร็วเดินหน้า 3 จังหวะ ....การบังคับการถอยหลัง ...การเปิดและปิด ไฟหน้ารถ ..การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าที่เหลืออยู่ ...ชุดควบคุมทั้งหมดนั้ ผมซื้อในราคา 2,800 บาท
..นำชุดควบคุม มาติดตั้งและประกอบกับล้อหน้า ที่ประกอบเสร็จแล้ว ปกติถ้าทำแบบนี้ เพียงแค่ใส่ล้อหลังก็เสร็จแล้ว ..รถไฟฟ้า 2 ล้อโดยทั่วๆไปเป็นแบบนี้
แต่รถที่ผมกำลังทำนี้เป็นได้แค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะผมตั้งใจว่า ผมทำรถไฟฟ้าใว้ใช้ในที่ห่างไกล ในชนบท ในที่ซึ่ง... ไม่มีไฟฟ้า... และ ก็ไม่มี ไฟฟ้า ไว้ใช้งาน ผมต้องหาวิธีการ...พึ่งตนเอง... เพื่อที่จะสามารถใช้รถไฟฟ้าที่ผม จัดทำคันนี้ให้ได้

 

 
ครั้งที่3 วันที่ 7 เมษายน 61
... เพราะ ผมต้องทำรถไฟฟ้าใว้ใช้ เอง ในที่ห่างไกล ในชนบท ในที่ซึ่ง... ไม่มีไฟฟ้า... และ ก็ไม่มี น้ำมัน ไว้ใช้งาน ..รถของผมไม่ต้องการความเร็ว มากๆ ผมแค่ต้องการความเร็ว 40 กท/ขม เป็นความเร็วที่กฎหมายกำหนดในเขตเมือง ... ระยะทางวิ่ง ... ผมต้องการทำให้สิ่งได้ ครั้งละ 400 กม ไม่ใช่ต่อการ charge หนึ่งครั้ง เพราะไม่มีที่ charge ไม่มี ไฟฟ้านั่นเอง ..ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องหาวิธีการ...พึ่งตนเอง... เพื่อที่จะสามารถใช้รถไฟฟ้าที่ผม จัดทำคันนี้ให้ได้
*** สิ่งนั้นคือ ผมต้องหาทาง และ วิธีการ ผลิตไฟฟ้า เพื่อ นำมา ช่าร์จ ให้มีไฟฟ้าเพียงพอ ใว้ใช้งานตลอดเวลาที่ตัองการใช้งาน ในเวลากลางวัน เพราะเวลากลางคืนผมตัองการ พักผ่อน..
การผลิตไฟฟ้าเพื่อ ช่าร์จ แบตเตอรี่ ผม วางแนวทางการผลิตใน 2 กรณี คือ
1 ผลิตในขณะที่ รถ เคลื่อนที่
2 ผลิตในขณะที่ รถ อยู่กับที่
รถเคลื่อนที่ ผมผลิตไฟฟ้าโดยการใช้ แผงโซล่าเซลล์ และ Mechanical Brushless Generator

รถอยู่กับที่ ใชั แผงโซล่าเซลล์ และ Station Brushless Generator.

รายละเอียด ทุกๆเรื่องราว ผมจะกล่าวโดยละเอียด ทั้งแนวการคิด การสร้าง การทดสอบ และมีตัวอย่างของจริงแสดงให้ดู ว่า .มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้วและใช้งานได้จริงๆ..

ขอเริ่มต้นเลย ครับ ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยว ผมชอบที่จะขับรถคันเล็กๆๆ ของผม ไปเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ ผมไป ซื้อกิ่งพันธ์ุมะนาว ที่สวน ลุงจำรัส ที่ บริเวณ ใกล้ๆวัดอ่างแก้ว ภาษีเจริญ กทม(อดีตสมัยผมเรียกว่า ธนบุรี ผมจริงๆแล้วเป็นคนฝัีงธน ตามใบเกิด) ไปเจอรัานรับซื้อและขายของเก่า เครื่องซักผ้า และตู้เย็น หลายชนิด หลายยี่ห้อ.. ผมเลือกซื้อ เฉพาะ มอเตอร์ เครื่องซักผ้า ประเภท มอเตอร์ Dirrect drive ซึ่งก็คือ มอเตอร์ ของ เครื่องซักผ้า ที่ไม่ใช้ สายพาน บางยี่ห้อ เขาจะหล่อติดกับตัวถังเครื่องซักผ้ามาเลย เพราะมอเตอร์ชนิดนี้ จะไม่มีโอกาสเสีย ที่จะเสียคือ อุปกรณ์ประกอบมอเตอร์อย่างอื่นเท่านั้นที่เสียผมซื้อในราคา ตั้งแต่ 700 บาท ถึง 1400 บาท ตามขนาดใหญ่หรือเล็ก ที่ร้านนี้ ที่ผมพบเห็น มีคนจากหลายจังหวัดมาซื้อ บางคนก็สั่งไว้ นอกจากร้านนี้แล้ว ยังมี ร้าน รับซื้อของเก่า แถว สีแยกวังหิน ใกล้ๆ วัดลาดปลาเค้า บางเขน กทม ก็ มีขาย ผมซื้อในราคา ตั้งแต่ 800 บาท-1000 บาท สรุป ผมซื้อมามีราคา ตั้งแต่ 700บาท ถึง 1400 บาท คนที่ขาย และคนที่ผมเห็นว่า ผมซื้อ พยายามถามผม ว่า ซื้อเอาไปทำอะไร ผมตอบว่า ให้ติดตามอ่านในเฟส เพราะผมไม่ต้องการ ตอบทีละคน ผมตอบครั้งเดียว จบ ครับ

 

 

ครั้งที่ 6 วันที่ 10 มิย.61

วันนี้ วันอาทิตย์ที่ 10 มิย 62 ..smart garden home เลขที่ 58 ม2 ต. วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ. ชัยนาท มีความสูขและความยินดีที่ อาจารย์ รศ. อุทัย ศรีธีระวิโรจน์ มาเยี่ยมเยียน และ มาชมกิจกรรมและแผนงาน ในอนาคต ผมยังคงยืนยันด้วยสภาพที่เห็นอยู่ ผมทำคนเดียว อยู่คนเดียว ชายแก่ อายุ71ปี และมีเป้าหมาย ว่าหลังจาก 3 ปีไปแล้ว 1 ไร่ต้องได้ 1 แสน ผมจะเขียน รายละเอียด ในการคิด และการทำ.. ผมทำในแนว ..พึ่งตนเอง.. ช่วงนี้ ผมอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ทำเกษตร และปรับปรุงพื้นที่ พักอาศัย พืชที่จะปลูก มี ผักสวนครัว เห็ด มะนาว มะเดื่อ(ปลูกเพื่อแจกผู้ที่มา เยี่ยมชม สวน เท่านั้น ไม่ขาย) ทุเรียน มะม่วง กล้วย ที่ตั้งใจไว้มีเท่านี้ ทุกอย่างที่คิด ที่ทำ โดยการ ใช้ app ผ่าน มือถีอ ..smart phone ..ขอย้ำว่า ทุกอย่างที่ผมคิด ทุกอย่างที่ผมทำ ดูของจริงได้ ครับ
สุดท้าย อาจารย์ เห็นว่าไม่มีตู้เย็น ก็เลยเสนอ บริจาค ตู้เย็นให้ smart garden home ใว้ใช้ประโยชน์ต่อไป ผม ดีใจมากๆ และขอบคุณมากๆ ครับ
..## .ผมใด้มีการตรวจสอบแล้ว smart garden home สามารถ ทำได้ทุกที่ในประเทศไทย ในเวลานี้...

ขออธิบาย ..ทำไมจึงเรียกว่า ..พึ่งตนเอง .. เพราะว่า ถ้าท่านไม่รู้จักเพิ่งตนเอง ไม่มีใคร หรือหน่วยงานภาครัฐ ไหนมาช่วยท่านได้ตลอดไป ผมขอยกตัวอย่าง เกี่ยวกับตัวผมเอง ..ผมจะทำเกษตร ผมก็ไปสมัคร หน่วยงานรัฐว่าผมเป็นเกษตรกร พรุ่งนี้ ผมไปที่เกษตรอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท เพื่อ สมัครเป็นเกษตรกร และขอ รับการอบรมเรื่องการเพาะปลูกเห็ด เมื่ออบรมเสร็จ ผมก็ เอาความรู้ที่ได้ มาปลูกเห็ด ขาย เป็นรายได้ของผม ต่อไป รายละเอียด เพาะปลูกเห็ดอย่างไร ติดตามอย่างละเอียดได้ หลังจากที่ผมอบรมเสร็จครับ ..งานที่กำลังทำ ผมก็ขอเล่า ว่า ลำพัง ผมชายแก่คนเดียว อายุ 71 จะทำอะไรได้ ถ้าไม่มีเครื่องช่วย ดังได้กล่าวมาแล้ว ในส่วนของ software ผมใช้ app ฟรีๆ ช่วย ส่วน Hardware ผมขอ กล่าวในรายละเอียด ดังนี้ ครับ
1 เครื่องตัดหญ้า เพราะส่วนมากบ้านเรือนที่อยู่โดยรอบบ้านผมจะใช้ การฉีดยา ฆ่าหญ้า เพราะประหยัดแรงงานดี คงจะมีผมคนเดียวที่ใช้เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า แต่การใช้เครื่องตัดหญ้า เริ่มต้นจะลำบากมากๆ เพราะพื้นผิวเรียบและสม่ำเสมอ ผมจึงต้องตัดไป ปรับพื้นไป ครั้งแรกต้องยอมเสียเวลาครับ แต่ที่ช่วยผมอย่างมากๆ คือ 2 มือของผม ผมใช้ 2 มือของผมถอนหญ้าครับ ใชัมือถอนหญ้าได้ผลดีมากครับ
2 เลื่อยไฟฟ้าขนาดเล็ก เพราะต้นไม้ มีขนาดใหญ่ลำพังใช้กรรไก ตัด ไม่ไหว จึงต้องใช้เลื่อยไฟฟ้า วันนี้ก็ตัด มะพร้าวไป สองต้น
..พืชที่ผมเตรียมปลูก คือ มะนาว มะเดื่อ ผักสวนครัว และเห็ด ..พืชที่ทดลองปลูกคือ มะม่วง และ ทุเรียน
เวลานี้ ซื้อ กิ่งพันธ์ุมาแล้ว ครับ คือ ..มูซ้งคิง จากมาเลย์.. หลงลับแล ..ลินลับแล จากอุตรดิษฐ์ ....

 

 

...อะตีตัง นาวากะเมยยะ นัปปะฎิกังเข อะนาคะตัง ...

ครั้งที่ 7 วันที่ 13 มิย 61
วันนี้ วันพุธที่ 13 มิย.61
.
.บุคคลไม่ตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย ...

ผมได้ลงทะเบียนเป็นเกษตรกรโดยสมบูรณ์ ทั้งทางพฤตินัย และ นิตินัย คือ เป็นเกษตรกร เต็มตัว การลงทะเบียนก็ไม่ยุ่งยาก แค่ไปหาผู้ใหญ่บ้าน เซ็นรับรอง แนบสำเนาโฉนด ที่ทำเกษตร สำเนาบัตรประชาชน เป็นอันเสร็จ ผมลงทะเบียน การทำเกษตร และการเลี้ยงสัตว์ พร้อมกันทั้ง 2 อย่าง แต่ชื่อเดียวคือ เกษตรกร ส่วน ในเรื่องการอบรมเพาะเห็ดก็แนบ สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก และสำเนาบัตรประชาชน เพราะ รัฐบาลจะจ่ายค่าพาหนะ ให้ผู้เข้ารับการอบรมโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ของผมเป็น กรุงไทย ..ในความเห็นส่วนตัวของผม รู้สึกว่าในปัจจุบันนี้ รัฐเอาใจใส่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ในสมัยผมหนุ่มๆ ไม่มีแบบนี้ ..ขอจบเรื่องนี้แค่นี้ก่อน
...วันนี้ผมไปซื้อ วงบ่อซีเมนต์ ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 ซม เพื่อปลูก มะนาว ราคา วงละ 120 บาท .. เท่ากับที่ กทม ราคานี้พร้อมส่งถึงที่สวน หลายคนที่รู้จากผมว่า ผมจะปลูกมะนาว ส่วนมาก พากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีหลายคนฟันทิ้งหมดแล้ว และมะนาวถูก ปลูก ทำไม ?? แต่สำหรับผมแล้ว ผมยังคงยืนยันว่า ผมเตรียมปลูกมะนาว ต่อไป ..ดินทีปลูกผมใช้สูตร 3-2-1 คือ ดินอะไรก็ได้ 3 ส่วน ปุยคอก 2 ส่วน มะพร้าวสับ 1 ส่วนมะพร้าวสับไม่มี ก็ใช้ใบไม้ ใบหญ้าที้ผมถาง ผมถอน ใส่ลงไป ..ช่วงเริ่มต้นผมจะใช้ดินสูตรนี้ ..เมื่อ มะนาวโตขึ้น ผมจึง ปรับเปลี่ยน สูตรใหม่ เป็น ขี้ไก่ ทะยอยใส่ไม่มาก อาทิตย์ละครั้ง ยึดหลัก ใส่น้อย แต่ใส่บ่อยๆๆ ... ความคืบหน้า จะ รายงาน อาทิตย์ละครั้ง ครับ

   
 
ครั้งที่ 8 วันที่ 17 มิย 61

ขอบคุณสมาชิกใหม่ ผมขออธิบาย เกษตรในแนวทางพึ่งตนเองของผมคือ การ พึีงพาตนเองเป็นหลักสำคัญ แปลว่า ตั้งแต่เริ่มตนเตรียมการปลูก เก็บเกี่ยวผลผลิต การขาย ถึงผู้บริโภค รวมทั้งแหล่งเงินทุน ผมพึ่งตนเองหมดผมจึงได้มา ทำสวนเกษตรที่ อำเภอหันคา จังหวัด ชัยนาท ในแนวทางเป็นแบบ smart garden home เวลานี้ ผมเขียน การทำมาถึงครั้งที่ 7 หาอ่าน รายละเอียดย้อนหลังได้ ใน www.pradharm.com หลักการของผมที่ทำจะเป็นเกษตรแบบโบราณ ที่ทุกคนลืม ผมยังคงยืนยัน ว่า 3 ปีล่วงไปแล้ว 1 ไร่ต้องได้ 1 แสน ..เดือน กค นี้ผมจะไปอบรมการปลูกเห็ด และจะมีการรวมกลุ่มการเพาะเห็ดโดยการสนับสนุนของเกษตรอำเภอหันคา รายละเอียดผมจะ นำมาเสนอต่อไปครับ
ขอเริ่มต่อเป็นครั้งที่ 8
17 มิย 61
...อะตีตัง นาวากะเมยยะ บุคคลไม่ตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย
นัปปะฎิกังเข อะนาคะตัง
และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
การให้น้ำต้นไม้ ผมซื้อท่อน้ำ จาก ห้าง ไทวัสดุ ราคาเส้นละ 32 บาท ยาว 4 เมตร ยี่ห้อ ไชโย ถ้า ยี่ห้ออื่นๆจะแพง เส้นละ ประมาณ 50 บาท ผมนำมาต่อเหมือนแบบทั่วๆไป แต่จะมีที่แตกต่างกว่า ปกติทั่วไป คือ ผมใช้สว่านไร้สาย ใช้ดอกสว่านขนาด 3 มม เจาะท่อ ตรง บริเวณ ตำแหน่งใกล้ๆ โคนต้น ผมใช้ หัวหยดน้ำ แบบที่ ปรับได้ ราคา หัวละ 5 บาท เพราะแต่ละหัวแรงดันน้ำ ที่ออกมาจะมีแรงดันที่ไม่เท่ากัน เนื่องจาก ระยะทางที่แตกต่างกัน นั่นเอง เมืี่อ เปิดน้ำ ผมก็จะ ปรับ แต่ละหัว ให้น้ำที่ออกมาแรงดันใกล้เคียงกัน ก็จะทำให้ ปริมาณน้ำ ที่ออกมา รดต้นไม้ จะได้ใกล้เคียงกัน ทุกต้น
ผมจะต้องปรับน้ำ ที่ ออกมาจาก solinoid valve ตัวเดียวกัน ให้มี แรงดัน ของน้ำที่ใหล ออกมา ใกล้เคียงกัน ถ้าใช้ solinoid valve หลายตัว ก็ต้องปรับทุกตัว สำหรับ แรงทางใหลของน้ำ
ให้มี ปริมาณการใหลของน้ำที่เท่ากัน
ผมปลูกพืชหลายชนิด ความต้องการน้ำ ของพืชแต่ละชนิด ไม่เท่ากัน ขอ ยกตัวอย่าง เช่นมะนาว และ ผักสวนครัว ความต้องการน้ำไม่เหมือนกัน ดังนั้น การวางระบบน้ำจึงต้องแยกจากกัน คือ ใช้ solinoid valve คนละตัว ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการวางระบบ รดน้ำจึงต้องศึกษาความต้องการของน้ำ ในพืชแต่ละชนิด ให้เข้าใจและถูกต้อง จึงนำข้อมูลที่ได้ มาวาง ระบบ น้ำ ด้วยเหตุนี้ผมจึงแยกแปลง ปลูกมะนาว 1 แปลง ผักสวนครัว อีกหนึ่งแปลง เมื่อแยกแปลงเสร็จก็ ปรับ ระบบ น้ำให้ ทุกๆหัวใกล้เคียงกัน
ในส่วนของแปลงผักสวนครัว ผมใช้มุ้งห้อง ขนาด สูง 2.8 เมตร กว้าง 2.8 เมตร ยาว 2.4 เมตร ราคา 500 บาท มาทำทำเป็นโรงเรือน เพราะ ทนและราคาถูก เมื่อเทียบกับ ตาข่าย ชนิด ต่างๆ มุ้งถูกที่สุด ครับ
ในส่วนของโรงเพาะเห็ด ผมใช้ ขนาด กว้าง 80 ซม สูง 150 ซม ยาว 2 เมตร

ทั้งหมดที่ผมเขียนมา เขียนจากสิ่งที่คิด คิดแล้วก็ทำ ทำเสร็จแล้วจึงเขียน เมื่อท่านอ่านแล้วไม่เห็นด้วย ก็ผ่านไปไม่ต้องจำ แต่ถ้าท่านชอบ ก็ทำตามได้ ถ้าทำตามๆม่ได้ ผมก็ ยินดี แนะนำ จนทำได้ ผมไม่ได้อ่านจาก google และก็ไม่เคย สนใจในบทความต่างๆ ถ้า มีการขัดแย้ง ท่านย่อมตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ว่า จะเชื่อใครดีครับ ผมแค่ เขียน บอกเล่า ในสิ่งที่ผมคิด คิดแล้วทำ ทำแล้วจึงเขียนออกมาโดยละเอียด ครับ
ต้องขอบอกด้วยความจริงใจว่า ผมไม่ใช่คน ธรรมะ ธรรมโม อะไร ผมกินเหล้า เมายา เที่ยวเตร่เฮฮา อยู่เสมอๆ เพียงแต่ว่า ผมเข้าใจความหมายที่ทำให้ผมมีความสูข จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง ครับ